เชื้อ Human Papillomavirus (HPV) มีมากกว่า 200 สายพันธุ์ โดยแบ่งเป็น สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงต่ำสุดไปจนถึงสายพันธุ์ที่เสี่ยงสูง ที่อาจทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกได้

HPV สายพันธุ์ที่ “ดุ” และมีความเสี่ยงสูงที่สุด คือ “สายพันธุ์ 16 และ 18”

HPV-16 และ HPV-18

เป็นสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงมากที่สุดในการก่อให้เกิดมะเร็ง โดยเฉพาะ “มะเร็งปากมดลูก” พบว่า 70% ของมะเร็งปากมดลูก ทั่วโลกเกิดจากสายพันธุ์นี้ และยังเชื่อมโยงกับมะเร็งชนิดอื่น เช่น 
🦠 มะเร็งทวารหนัก 
🦠 มะเร็งช่องปากและลำคอ 
🦠มะเร็งองคชาต
🦠 มะเร็งช่องคลอด

ทำไม HPV-16 และ 18 ถึงอันตราย ⚠️❓

1. มีความสามารถในการเปลี่ยนเซลล์ให้กลายเป็นเซลล์มะเร็งสูง
• HPV-16 และ HPV-18 มีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อการเกิดมะเร็งที่รุนแรง โดยการผลิตโปรตีน E6 และ E7 ซึ่งทำลาย โปรตีนควบคุมเซลล์ (p53 และ Rb) ทำให้เซลล์แบ่งตัวผิดปกติจนกลายเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด
2. ก่อให้เกิดการติดเชื้อเรื้อรัง
• โดยทั่วไป ร่างกายสามารถกำจัดเชื้อ HPV ได้เอง ภายใน 1-2 ปี แต่ HPV-16 และ 18 สามารถแฝงตัวอยู่ได้นาน และถ้าหากเป็นมีอาการติดเชื้อเรื้อรัง จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการเกิดมะเร็งได้
3. มีอัตราการก่อมะเร็งสูงกว่า HPV สายพันธุ์อื่น
• แม้ว่าจะมี HPV ที่มีความเสี่ยงสูงมากกว่า 10 สายพันธุ์ (เช่น 31, 33, 45, 52, 58) แต่ HPV-16 และ 18 เป็น สายพันธุ์ที่พบได้บ่อยและก่อให้เกิดมะเร็งได้มากที่สุด

ป้องกันการติดเชื้อ HPV ได้อย่างไร 🩺❓

🩺 ฉีดวัคซีน HPV (มีทั้งชนิดป้องกัน 2, 4, และ 9 สายพันธุ์) ควรฉีดตั้งแต่อายุยังน้อย หรือก่อนมีเพศสัมพันธ์
🩺 ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ด้วย Pap smear หรือ HPV DNA Test
🩺 ใช้ถุงยางอนามัย เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
🩺 หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การเปลี่ยนคู่นอนบ่อย การสูบบุหรี่ ซึ่งทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง

 

HPV-16 และ HPV-18 เป็นสายพันธุ์ที่ “ดุ” ที่สุด เพราะมีศักยภาพสูงในการทำให้เซลล์กลายเป็นมะเร็ง และสามารถแฝงตัวอยู่ในร่างกายได้นานกว่าสายพันธุ์อื่น ทำให้มีความเสี่ยงสูงในการก่อมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งปากมดลูก การป้องกันที่ดีที่สุดคือ การฉีดวัคซีนและตรวจคัดกรองเป็นประจำ”