มะเร็งผิวหนังมีหลายชนิด เช่น มะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมา (Melanoma), มะเร็งเซลล์ต้นกำเนิด (Basal Cell Carcinoma, BCC) และมะเร็งเซลล์สความัส (Squamous Cell Carcinoma, SCC) ซึ่งแต่ละชนิดมีลักษณะอาการที่แตกต่างกันออกไป วิธีสังเกตุและเฝ้าระวังที่ดีที่สุด คือดูการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังที่เกิดอาการผิดปกติ ดังต่อไปนี้

1. ไฝหรือจุดดำบนผิวหนังที่ผิดปกติ
• รูปร่างไม่สมมาตร (Asymmetry) ไฝที่มีรูปร่างผิดปกติ ไม่กลม หรือไม่สมดุล
• ขอบไฝมีลักษณะไม่ชัดเจน (Border) ไฝที่มีขอบหยัก ขรุขระ หรือเลือนลาง
• สีผิดปกติ (Color) มีหลายสีในไฝเม็ดเดียวกัน เช่น น้ำตาล ดำ แดง ขาว หรือฟ้า
• ขนาดใหญ่ขึ้น (Diameter) เส้นผ่านศูนย์กลางเกิน 6 มม. (ขนาดเท่ายางลบดินสอ)
• เปลี่ยนแปลงเร็ว (Evolving) ไฝที่เปลี่ยนสี ขนาด หรือรูปร่างอย่างรวดเร็ว

⚠️ ถ้าพบอาการตามหลัก ABCDE นี้ ให้รีบพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งเมลาโนมา ⚠️

2. แผลที่ไม่หายสักที
• แผลเปิดหรือเป็นแผลเปื่อยที่ไม่หายภายใน 4 สัปดาห์
• มีเลือดออกง่าย หรือมีสะเก็ดขึ้นแล้วลอกออกซ้ำๆ
• พบได้บ่อยใน มะเร็งเซลล์สความัส (SCC) และมะเร็งเซลล์ต้นกำเนิด (BCC)
3. มี ตุ่ม ผื่น หรือก้อนเนื้อผิดปกติบนผิวหนัง
• ตุ่มใสหรือมันเงา อาจเป็นมะเร็งเซลล์ต้นกำเนิด (BCC)
• ตุ่มแดง ขรุขระ หรือเป็นสะเก็ด อาจเป็นมะเร็งเซลล์สความัส (SCC)
• ผื่นแดง คัน หรือแสบ ที่ไม่หายแม้รักษาด้วยยาทา
4. จุดหรือก้อนเนื้อที่มีการเปลี่ยนแปลง
• นูนขึ้น หรือขยายขนาดเร็ว
• มีเลือดออกง่าย หรือเป็นสะเก็ดซ้ำๆ
• มีอาการคัน แสบ หรือเจ็บ
5. ผิวหนังมีรอยด่างดำที่ผิดปกติ
• ผิวบริเวณหนึ่งเปลี่ยนเป็น สีเข้มขึ้น อย่างเห็นได้ชัด
• บางจุดมีสีซีดกว่าผิวรอบ ๆ
• อาจเกิดจากมะเร็งเมลาโนมา
ควรพบแพทย์เมื่อไร 🧑‍⚕️
ไฝหรือจุดดำบนผิวหนังมี การเปลี่ยนแปลงของสี ขนาด หรือรูปร่าง
มีแผลที่ ไม่หายภายใน 4 สัปดาห์
มีตุ่ม ผื่น หรือก้อนเนื้อที่ดูผิดปกติ และไม่ตอบสนองต่อการรักษาทั่วไป
ผิวหนังมี เลือดออกเอง คัน หรือเจ็บ

“หากพบ ไฝผิดปกติ, แผลเรื้อรัง, ตุ่มหรือก้อนเนื้อที่เปลี่ยนแปลง, หรือจุดด่างดำผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อ ตรวจคัดกรองมะเร็งผิวหนัง แต่เนิ่น ๆ การตรวจพบเร็วช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาให้ได้ผลดี”