มะเร็ง “อัณฑะ” สามารถรักษาได้ หากตรวจพบในระยะเริ่มต้น
มะเร็งอัณฑะเกิดขึ้นเมื่อเซลล์ในอัณฑะเติบโตอย่างผิดปกติและควบคุมไม่ได้ อัณฑะ (หรือที่เรียกว่าอัณฑะทั้งสองข้าง) เป็นส่วนหนึ่งของระบบสืบพันธุ์เพศชาย ซึ่งมีหน้าที่สร้างฮอร์โมนเพศชายและผลิตสเปิร์มเพื่อการสืบพันธุ์ มะเร็งอัณฑะเป็นมะเร็งที่เกิดขึ้นในอัณฑะและสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกายได้
อัณฑะคืออะไร?
อัณฑะเป็นอวัยวะขนาดเล็กที่อยู่ในถุงหุ้มใต้ฐานอวัยวะเพศชาย มีหน้าที่หลักสองอย่างคือ
- ผลิตฮอร์โมนเพศชาย เช่น เทสโทสเตอโรน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาลักษณะเพศชาย
- ผลิตสเปิร์ม ซึ่งจำเป็นต่อการสืบพันธุ์
สเปิร์มถูกสร้างในท่อเล็กๆ ภายในอัณฑะและถูกเก็บไว้ในท่อขดขนาดเล็กด้านหลังอัณฑะ เรียกว่า ท่อพักสเปิร์ม (Epididymis) เมื่อมีการหลั่งน้ำเชื้อ สเปิร์มจะเดินทางผ่านท่อทางเดินและผสมกับของเหลวจากต่อมอื่นๆ เพื่อกลายเป็นน้ำเชื้อ (Semen)
ชนิดของมะเร็งอัณฑะ
มะเร็งอัณฑะมีหลายประเภท โดยชนิดที่พบบ่อยที่สุดคือ เนื้องอกเซลล์ต้นกำเนิด (Germ Cell Tumors) ซึ่งเกิดจากเซลล์ที่ผลิตสเปิร์ม ชนิดของเนื้องอกเซลล์ต้นกำเนิดแบ่งเป็นสองประเภทหลักคือ ซีมิโนมา (Seminoma) และ นอน-ซีมิโนมา (Non-seminoma)
- ซีมิโนมา: มีการเติบโตช้ากว่าและมักเกิดในผู้ชายอายุ 25-45 ปี
- นอน-ซีมิโนมา: เติบโตเร็วกว่าและมักพบในผู้ชายช่วงวัยรุ่นถึง 30 ปี โดยประกอบด้วยเนื้องอกหลายชนิด เช่น เอ็มบริโอเนล คาร์ซิโนมา (Embryonal carcinoma) ยอล์กแซค คาร์ซิโนมา (Yolk sac carcinoma) โคริโอคาร์ซิโนมา (Choriocarcinoma) และเทอราโตมา (Teratoma)
เนื้องอกในเซลล์สนับสนุน (Stromal Tumors)
นอกจากเนื้องอกเซลล์ต้นกำเนิด ยังมีเนื้องอกที่เกิดจากเซลล์สนับสนุนในอัณฑะ เช่น
- เนื้องอกเซลล์ไลดิช (Leydig Cell Tumors): มักไม่แพร่กระจายและรักษาได้ด้วยการผ่าตัด แต่ในบางกรณีอาจแพร่กระจายและรักษาได้ยาก
- เนื้องอกเซลล์เซอร์โทลี (Sertoli Cell Tumors): มักเป็นเนื้องอกที่ไม่แพร่กระจาย แต่ถ้าแพร่กระจายก็ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีบำบัด
มะเร็งอัณฑะทุติยภูมิ
มะเร็งที่เกิดจากอวัยวะอื่นแล้วแพร่กระจายมายังอัณฑะเรียกว่ามะเร็งทุติยภูมิ โดย มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma) เป็นมะเร็งทุติยภูมิที่พบบ่อยที่สุดในอัณฑะ การรักษามักประกอบด้วยการผ่าตัดรังสีบำบัดหรือเคมีบำบัด ขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของมะเร็ง
สรุป
มะเร็งอัณฑะเป็นโรคที่สามารถรักษาได้ดีหากตรวจพบในระยะเริ่มต้น การสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ก้อนหรืออาการบวมในอัณฑะ ควรได้รับการตรวจและวินิจฉัยจากแพทย์ทันทีเพื่อการรักษาที่เหมาะสม