ปัจจุบันเราทราบว่า โรคมะเร็ง คือ ความผิดปกติของเซลล์ในร่างกายที่เกิดการกลายพันธุ์ แบ่งตัวจนเกิน ของร่างกาย และ กระจายลุกลาม ไปจนทำลายการทำงานของอวัยวะ และ ทำให้เสียชีวิตในที่สุด
การรักษามะเร็ง ย่อมเริ่มต้นที่การวินิจฉัยด้วยการ เจาะหรือตัด ชิ้นส่วนออกจากอวัยวะที่สงสัยมะเร็ง ตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์โดยพยาธิแพทย์
แล้วอะไรคือ มะเร็ง? มะเร็งคือเซลล์ที่แบ่งตัวอย่างผิดปกติ หลุดจากการควบคุมของร่างกายกระจายไปอวัยวะต่างๆ
จากกล้องจะเห็นเซลล์มะเร็ง (ขวาสุด) มีลักษณะของความไม่เป็นระเบียบ แบ่งตัวอย่างหนาแน่นและย้อมติดเป็นสีน้ำเงินที่กลางเซลล์ (นิวเคลียส) ซึ่งมีหน่วยพันธุกรรมหรือยีนซึ่งควบคุมลักษณะของเซลล์และการถ่ายทอดต่อไปยังเซลล์รุ่นต่อๆไป
ยีนหรือหน่วยพันธุกรรม สำคัญกับ โรคมะเร็ง อย่างไร?
หน่วยพื้นฐานของเนื้อเยื่อและอวัยวะของสิ่งมีชีวิตต่างๆ คือ เซลล์ซึ่งหน่วยย่อยเหล่านี้ มีชีวิต มีอายุขัยและต้องมีการแบ่งตัวทดแทน โดยคงรูปแบบเดิม(ไม่กลายพันธุ์) และมีระบบภูมิต้านทาน คอยจัดการเซลล์ที่ผิดปกติไม่ให้สร้างปัญหา
หน่วยพันธุกรรม โดยพื้นฐานคือ สารเคมี (DNA) 4 ชนิด คือ A,T,C,G เป็นแถวต่อกันเป็นสาย มีสองเส้นเรียก โครโมโซม ซึ่งเราได้มาจากพ่อและแม่ อย่างละครึ่งหนึ่ง มาเข้ารหัสกัน (A-T,C-G) เป็นคู่ลำดับเบส โครโมโซมที่ประกอบด้วยลำดับเบสนี้จะขดตัวรวมกันเป็นเกลียวคู่อยู่ที่กลางเซลล์หรือนิวเคลียส เมื่อต้องมีการแบ่งเซลล์ใหม่ การควบคุมลักษณะการแสดงออก จะมีการคลายเกลียวออก และเกิดการจำลองตัว ของโครโมโซมแต่ละเส้น โดยแปรผลผ่านสารเคมี RNA ทำให้เซลล์ใหม่มีโครโมโซมเหมือนเดิม และหน่วยพันธุกรรมนี้จะควบคุมการถ่ายทอดออกมาลักษณะของโปรตีนต่างๆของร่างกายกลาย เป็นเซลล์และอวัยวะต่างๆ ดังนั้นความผิดพลาดในการถ่ายทอดลักษณะเหล่านี้ หลุดออกจากระบบการตรวจสอบของภูมิต้านทานก็จะทำให้เซลล์ของอวัยวะต่างๆผิดปกติรวมทั้งกลายเป็นมะเร็ง
สรุป พันธุกรรมหรือยีน : เป็นตัวควบคุมที่สำคัญ ต่อการแสดงออกของเซลล์ อวัยวะ และการทำงานของร่างกาย รวมทั้งมะเร็ง การได้รับสารเคมี รังสี ความบกพร่องในการควบคุมการถ่ายทอด เท่ากับเกิดเซลล์ผิดปกติ หรือ มะเร็งนั่นเอง!
ถ้าเรามียีนมะเร็ง จะต้องเป็นมะเร็งเสมอไป?
ยีนที่เกี่ยวกับมะเร็งมีสองรูปแบบคือ ส่งเสริม และต่อต้านการเกิดมะเร็ง กรณีที่มียีนมะเร็งที่ทำงานมากกว่าปกติ แต่ยีนต้านมะเร็ง กลัยไม่ทำงาน = เราก็จะเป็นมะเร็งได้ และโอกาสมากกว่าประชากรทั่วไป ที่อายุเท่ากัน สุขภาพใกล้เคียง หรือรับสารก่อมะเร็งมาพอๆกัน แต่ไม่ต้องกังวลมากเกินไปเพราะเรายังมีพระเอกที่ช่วยดูแลร่างกาย … นั้นคือ ระบบภูมิต้านทาน!
มะเร็ง-ภูมิต้านทาน?
สรุปว่า ธรรมชาติในร่างกายมีสมดุลระหว่างมะเร็งและภูมิต้านทาน ถ้าอัตราการสร้างเซลล์มะเร็ง มีน้อยกว่าอัตราการทำลายของภูมิต้านทาน = ก็จะไม่มีก้อนมะเร็งก่อตัว ในทางกลับกัน “มะเร็ง” ก็คือ กลไกที่การสร้างเซลล์มะเร็งมากกว่าการทำลายของภูมิต้าน
ความรู้ใหม่เหล่านี้นำมาซึ่งการรักษามะเร็งในยุคใหม่ที่ได้ผลในการรักษาที่ดีกว่าเดิมและมีผลข้างเคียงที่น้อยลง เช่น การรักษามาตรฐานในปัจจุบัน และแนวทางการพัฒนา ดังตารางด้านล่าง
การรักษาแบบเดิม | การรักษาแบบใหม่ รพ.จุฬารัตน์ |
---|---|
ผ่าตัดเข้าไปทำลายมะเร็ง | ส่องกล้องขนาดเล็ก |
ใช้มีดตัด มีเลือดออก | ใช้ความร้อนจากไฟฟ้า |
ใช้กัมมันตภาพรังสี | ใช้คลื่นเสียงสร้างความร้อน |
ฉายรังสีแบบกว้าง | ฉายรังสีสามมิติ |
ใช้ยาเคมีฉีด | ใช้ยาเคมีกิน ผลข้างเคียงต่ำ |
ให้ยาเคมีอ่อนเพลีย | ให้ยาป้องกันผลข้างเคียง |
ผู้ป่วยมะเร็งเบื่ออาหาร | ให้สารอาหารทางเส้นเลือด |
เคมีทำลายเม็ดเลือด | ให้ยาป้องกันเม็ดเลือดต่ำ |
ให้ยาเคมีอย่างเดียว | มียามุ่งเป้าและภูมิคุ้มกันบำบัด |
รักษาตามสูตรเดิม | รักษาตรงตามพันธุกรรมมะเร็ง |
นอกจากการรักษามาตรฐานคือ ผ่าตัด ฉายแสง ยาเคมี ซึ่งไม่ตอบโจทย์ ความต้องการและผลเสียต่อคุณภาพชีวิต ทางศูนย์มะเร็ง โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต ได้นำความรู้ด้านชีววิทยามะเร็งมาพัฒนาการรักษา เกิดเป็นวิธีการตรวจวางแผนรักษามะเร็งเฉพาะบุคคลในระดับพันธุกรรม และใช้วิธีที่ตรงเป้าหมายเฉพาะเซลล์มะเร็ง และผลข้างเคียงน้อย นอกจากการเน้นทำลายเซลล์มะเร็งแล้ว ยังมีวิธีการที่เน้นการส่งเสริมภูมิต้านทานที่ไม่ทำลายเซลล์ร่างกายอีกด้วย ดังจะได้อธิบายเพิ่มเติมต่อไป
ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่
การรักษามะเร็งแนวใหม่ที่ตรงจุดเพื่อหยุดมะเร็ง
ศูนย์มะเร็งตรงเป้า – โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต
โทรศัพท์ : 093-328-5561
หรือ : 02-115-2111 ต่อ 1169, 1170
แผนที่ : Google / รูปแผนที่ / เส้นทางเดินทาง
Facebook : HIFUCHULARAT
Line : hifu9000