การฝังแร่ ในช่องคลอด (Brachytherapy)
เป็นวิธีการรักษามะเร็งปากมดลูกที่ใช้แหล่งกำเนิดแร่ธาตุรังสีเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งในช่องคลอด เป้าหมายเพื่อให้เซลล์มะเร็งตาย หรือกดตัวเซลล์มะเร็งให้อ่อนลง
การฝังแร่ในช่องคลอดนั้นเป็นการนำแหล่งกำเนิดแร่ธาตุรังสีที่ปลอดภัย เช่น ไอโอไอด์-125, ไอโอไอด์-131 และไอโอไอด์-192 เป็นต้น เข้าไปฝังลงในช่องคลอด
มีวิธีการฝังแร่ในการรักษามะเร็งปากมดลูก 2 วิธีหลัก คือ
- ฝังแร่ในช่องคลอด (Brachytherapy) วิธีการนี้จะนำแหล่งกำเนิดแร่ธาตุรังสีมาฝังในช่องคลอด โดยใช้หลอดที่มีแหล่งกำเนิดแร่ธาตุรังสีที่ปลอดภัย แล้วนำเข้าไปยังระยะไกลของปากมดลูกเพื่อเข้าสู่เนื้อเยื่อและระบบต่อมน้ำเหลือง โดยวิธีการนี้จะช่วยให้เซลล์มะเร็งตาย หรือกดตัวเซลล์มะเร็งให้อ่อนลง
- ฝังแร่ในส่วนกลางของเนื้อเยื่อ (Interstitial Brachytherapy) วิธีการนี้จะนำแหล่งกำเนิดแร่ธาตุรังสีมาฝังลงในเนื้อเยื่อและระบบต่อมน้ำเหลือง โดยทำการฝังแร่ลงในช่องว่างระหว่างเซลล์มะเร็ง เพื่อให้อนุภาคและรังสี ไปกระตุ้นให้เกิดการตายของเซลล์มะเร็ง
ข้อบ่งชี้สำหรับการฝังแร่ในช่องคลอดที่สำคัญ ดังนี้
- ขนาดของเนื้องอกมะเร็ง การฝังแร่ในช่องคลอดเหมาะสำหรับเนื้องอกมะเร็งขนาดเล็กถึงกลาง ซึ่งมักจะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 4 เซนติเมตร
- ลักษณะของเนื้องอก การฝังแร่ในช่องคลอดเหมาะสำหรับเนื้องอกที่มีลักษณะคล้ายเนื้อเยื่อปกติ หรือเนื้องอกที่มีการกระจายทั่วไป และไม่มีการกระจายลักษณะเป็นก้อนใหญ่ๆ
- การกระจายของแหล่งกำเนิดแร่ การกระจายของแหล่งกำเนิดแร่ในช่องคลอดต้องสามารถปรับแต่งได้เพื่อให้การรักษาเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง โดยจะให้แหล่งกำเนิดแร่ราบรื่นและไม่มีความสูงเกินไป
- ระยะเวลาการรักษา การฝังแร่ในช่องคลอดจะใช้เวลาในการรักษาประมาณ 1-3 วัน และผู้ป่วยจะต้องเข้ารับการตรวจร่างกายเพื่อติดตามความเปลี่ยนแปลงของเนื้องอกหลังการรักษา
การฝังแร่ในช่องคลอดจะมีขั้นตอนการดำเนินงานดังนี้
- การวางแผนการรักษา การวางแผนการรักษาจะทำโดยการทำภาพเอกซเรย์และพบว่าแหล่งกำเนิดแร่ธาตุรังสีจะต้องอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
- การใส่สายสวนที่เชื่อมต่อกับหลอดที่มีแหล่งกำเนิดแร่ธาตุรังสี หลอดที่มีแหล่งกำเนิดแร่ธาตุรังสีจะถูกเข้าไปในช่องคลอดผ่านทางปากมดลูก
- การออกแบบช่องคลอด การออกแบบช่องคลอดจะทำโดยการใช้สายสวนเพื่อสร้างช่องที่มีขนาดและทรงรูปที่เหมาะสมสำหรับการฝังแร่
- การฝังแร่ เมื่อช่องคลอดได้รับการออกแบบเสร็จสมบูรณ์แล้ว
การดูแลตนเองขณะทำการฝังแร่ในช่องคลอด
- ระบบการย่อยอาหาร ระบบการย่อยอาหารของผู้ป่วยจะต้องมีประสิทธิภาพดี เพราะการฝังแร่ในช่องคลอดอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง หรืออาการท้องผูก ผู้ป่วยควรรับประทานอาหารที่เป็นไปตามระยะเวลาและปริมาณที่แพทย์กำหนด เช่น แบ่งอาหารเป็นหลายครั้งในวันเดียวกัน และอาหารควรมีส่วนผสมของใยอาหารเพียงพอ เพื่อช่วยลำเอียงการย่อยอาหาร
- การดื่มน้ำ ผู้ป่วยควรดื่มน้ำเพียงพอตามความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะในช่วงการฝังแร่ ผู้ป่วยควรดื่มน้ำเป็นปริมาณมากขึ้น เพื่อช่วยล้างสารพิษและสารตกค้างออกจากร่างกาย
- การทำกิจวัตรประจำวัน ผู้ป่วยควรทำกิจวัตรประจำวันเช่น อาบน้ำ แต่งตัว และทำความสะอาดผิวหนังอย่างปกติ
ศูนย์มะเร็งตรงเป้า – โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต
บริษัท คอนวีเนียนซ์ ฮอสพิทอล จำกัด
Convenience Hospital Co., Ltd.
90/5 หมู่ 13 ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540
โทรศัพท์ : 093-328-5561
หรือ : 02-115-2111 ต่อ 1169, 1170
แผนที่ : Google / รูปแผนที่ / เส้นทางเดินทาง
Facebook : HIFUCHULARAT
Line : hifu9000
เว็บไซต์ : รพ.จุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต
ไทย | ဗမာစာ