การระบุระยะของมะเร็งเต้านมเป็นสิ่งสำคัญในการวางแผนการรักษาและการคาดการณ์ผลลัพธ์ โดยการระบุระยะของมะเร็งเต้านมจะพิจารณาจากขนาดและตำแหน่งของเนื้องอกหลัก การแพร่กระจายของมะเร็งไปยังต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียงหรือส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ระดับของเซลล์มะเร็ง (tumor grade) และการมีอยู่ของสารชีวภาพบางชนิด (biomarkers)

มะเร็งเต้านมแบ่งเป็น 3 ประเภทของการระบุระยะ ได้แก่

1. ระยะการพยากรณ์ทางคลินิก (Clinical Prognostic Stage)

ใช้เป็นอันดับแรกสำหรับผู้ป่วยทุกคน โดยอิงจากประวัติสุขภาพ การตรวจร่างกาย การตรวจภาพถ่าย (เช่น เอ็กซ์เรย์, อัลตราซาวด์) และการตรวจชิ้นเนื้อ ระยะนี้ใช้ระบบ TNM ที่พิจารณาขนาดของเนื้องอก (T), การแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง 👎, และการแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย (M) นอกจากนี้ยังพิจารณาระดับของเซลล์มะเร็งและสถานะของสารชีวภาพ เช่น ER, PR, HER2 ในการตรวจคลินิก มักใช้แมมโมแกรมหรืออัลตราซาวด์เพื่อตรวจต่อมน้ำเหลืองว่ามีสัญญาณของมะเร็งหรือไม่

2. ระยะการพยากรณ์ทางพยาธิวิทยา (Pathological Prognostic Stage)

ใช้สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดเป็นการรักษาครั้งแรก ระยะนี้จะพิจารณาข้อมูลจากการตรวจคลินิก สถานะของสารชีวภาพ และผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการจากชิ้นเนื้อเต้านมและต่อมน้ำเหลืองที่ถูกนำออกจากการผ่าตัด

3. ระยะตามโครงสร้าง (Anatomic Stage)

ใช้พิจารณาขนาดและการแพร่กระจายของมะเร็งโดยอิงจากระบบ TNM ระยะนี้มักใช้ในบางพื้นที่ของโลกที่ไม่มีการทดสอบสารชีวภาพ ซึ่งในสหรัฐอเมริกาไม่ได้ใช้วิธีนี้
การทราบระยะของมะเร็งเต้านมเป็นสิ่งสำคัญในการวางแผนการรักษาที่เหมาะสมและช่วยให้แพทย์คาดการณ์การฟื้นตัวของผู้ป่วยได้อย่างแม่นยำ