การรักษาด้วยการฉายรังสีทำให้เกิดผลข้างเคียงเฉพาะที่ และมักจะไม่รุนแรง อาจเกิดรอยแดงหรือสีผิวคล้ำขึ้น ตรงบริเวณที่ได้รับการฉายรังสีและทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย ซึ่งระดับความมากน้อยขึ้นกับตัวบุคคล บริเวณที่ฉายรังสี และการได้รับการรักษาอื่น ๆ เช่น ยาเคมีบำบัด ร่วมด้วย

การดูแลตัวเองแบ่งออกเป็น

  1. การดูแลผิวหนังบริเวณที่ได้รับการฉายรังสี
  2. การดูแลสุขภาพโดยทั่วไป

การดูแลผิวหนังบริเวณที่ได้รับการฉายรังสี

  • ควรดูแลบริเวณที่ฉายรังสีให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอ
  • ผู้ป่วยสามารถอาบน้ำได้  แต่ควรใช้เป็นน้ำสะอาด หลีกเลี่ยงการใช้สบู่  แป้ง  เพราะแป้งฝุ่นอาจมีส่วนผสมของโลหะหนัก ทำให้ระคายเคือง ผิวดำคล้ำมากขึ้น ให้ใช้แป้งข้าวโพดบริสุทธิ์แทน และภายหลังการอาบน้ำควรใช้ผ้าเช็ดตัวที่อ่อนนุ่มซับเบา ๆ ให้แห้งแทนการเช็ดตัวปกติ
  • ห้ามวางกระเป๋าน้ำร้อนหรือประคบน้ำแข็งบริเวณที่ฉายรังสี และควรหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดจัดเป็นเวลานาน ๆ หรือการสัมผัสบริเวณที่ฉายรังสีโดยตรงกับความร้อนหรือความเย็น เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังได้
  • ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือยาทาผิวหนังบริเวณฉายรังสีให้อยู่ภายใต้การดูแลและคำแนะนำจากแพทย์เจ้าของไข้
  • ควรสวมเสื้อผ้าหลวม ๆ เนื้อผ้านุ่ม  เบาสบาย  ระบายอากาศได้ดีที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ เพื่อลดการเสียดสีผิวหนัง
  • ห้ามแกะ เกา ถูบริเวณที่ฉายแสง เนื่องจากผู้ป่วยที่ได้รับการฉายรังสีบริเวณลำคอ ผิวหนังอาจมีสีแดง แห้งตึง เกิดอาการคัน ดำคล้ำ และตกสะเก็ด หรือแตกเป็นแผล หากไปแกะ เกา ถูแรงๆ อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
  • ผู้ป่วยไม่ควรว่ายน้ำ  เนื่องจากในสระว่ายน้ำที่มีคลอรีน จะทำให้ผิวแห้งและเกิดการระคายเคืองได้ง่าย
  • กรุณารักษาเส้น Skin Marker บริเวณที่ฉายรังสีที่แพทย์และเจ้าหน้าที่กำหนดไว้ เพราะถ้าเส้นลบต้องทำการตรวจสอบตำแหน่งและความถูกต้องใหม่ ทำให้เสียเวลาในการรักษา และกรุณาอย่าขีดเส้นที่ลบเลือนด้วยตนเอง

การดูแลสุขภาพโดยทั่วไป

  • อาหาร ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ วิตามินสูง รสไม่จัด  โปรตีนสูงย่อยง่าย เช่น โปรตีนจากสัตว์  ปลา  นม ไข่ ตับสัตว์  ถั่วต่าง ๆ ผัก ผลไม้ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง  และควรงดอาหารประเภทหมักดอง
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยให้ร่างกายชุ่มชื้น และระบายความร้อนออกจากร่างกาย อย่างน้อยวันละ 2,000  cc (2 ลิตร) หรือ อาจเป็นเครื่องดื่มที่ผู้ป่วยชอบก็ได้ เช่น น้ำผลไม้  น้ำหวาน ฯลฯ
  • ควรรักษาความสะอาดทั่วไปของร่างกาย ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เพราะผู้ป่วยที่รักษาด้วยรังสี อาจมีอาการอ่อนเพลียและภูมิต้านทานของร่างกายต่ำ ถ้าร่างกายสกปรกจะเกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่าย
  • การขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ถ้ามีอาการท้องผูกหรือท้องเสียให้แจ้งแพทย์ พยาบาล หรือเจ้าหน้าที่ที่ให้การดูแลเพื่อให้คำแนะนำและรักษา
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6 – 8 ชั่วโมง ถ้าผู้ป่วยเกิดภาวะเครียดนอนไม่หลับให้แจ้งแพทย์หรือพยาบาลทราบ เพื่อวางแผนการดูแลรักษา
  • ออกกำลังกายตามสภาพของร่างกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตให้ดีขึ้น
  • ผู้ป่วยที่มีอาการปวดศีรษะ ปวดตามร่างกาย หรือมีอาการผิดปกติต่าง ๆ เช่น อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร เจ็บปาก เจ็บคอ กลืนลำบาก ผิวหนังอักเสบ ให้แจ้งแพทย์หรือพยาบาลทราบเพื่อให้การดูแลรักษา
  • ควรทำจิตใจให้สบาย หางานอดิเรกทำ เช่น อ่านหนังสือ ฟังวิทยุ ดูทีวี พูดคุยกับผู้อื่น ฯลฯ
  • ผู้ป่วยต้องได้รับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ได้แก่ CBC สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อประเมินภาวะสุขภาพขณะรับการฉายรังสี
  • ควรหลีกเลี่ยงแหล่งที่มีผู้คนอยู่กันอย่างหนาแน่น  เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ง่าย  ทั้งจากการสัมผัส  อากาศ   อาหาร  และน้ำดื่ม