ความคืบหน้า Sinopharm ความหวังเด็กประถม

ปัญหาการเปิดโรงเรียน ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนและพบว่ามีการติดเชื้อ covid-19 จนต้องปิดโรงเรียนอีกครั้งหนึ่งนั้น  ทำให้ผู้ปกครองหลายคนเกิดความกระตือรือร้นจะให้บุตรหลานของตนเองได้รับวัคซีนก่อนที่โรงเรียนจะเปิด

Sinopharm ก็เป็นวัคซีนที่มีการตีพิมพ์ผลการศึกษาทดลองใช้ในเด็กของวารสาร Lancet ซึ่งเป็นวารสารการแพทย์ระดับโลกที่เชื่อถือจากประเทศตะวันตกโดย Sinopharm ซึ่งเป็นวัคซีนเชื้อตาย และมีแนวโน้มที่จะมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีของวัคซีนหลายชนิด ที่เคยฉีดกันมาหลายสิบปีในเด็ก เช่น วัคซีนป้องกันไอกรน วัคซีนป้องกันโปลิโอชนิดฉีด วัคซีนป้องกันตับอักเสบ และวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น
จึงมีพ่อแม่และผู้ปกครองหลายคนที่ตั้งตารอผลการศึกษาของวัคซีนเชื้อตายเพื่อที่จะได้ฉีดให้กับบุตรหลานของตนเอง
ขณะนี้มีข่าวล่าสุดว่า ผลการทดลองในเฟส 1 และ 2 ของวัคซีน Sinopharm ในเด็กอายุ 3 -17 ปี ได้ผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ
โดยทำการแบ่งเด็กออกเป็น 3 ช่วงอายุ
ช่วงแรก 3-5 ปี
ช่วงที่สอง 6 -12 ปี
ช่วงที่สาม 13-17 ปี
โดยฉีดวัคซีนสามขนาดด้วยกัน คือ 2,4,8ไมโครกรัม
พบว่าสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันขึ้นได้สูงทั้ง 3 กลุ่ม แม้จะได้มีการทดลองฉีด 3 เข็มห่างกันเข็มละ 1 เดือนแต่ผลสรุปว่าการฉีดวัคซีนเพียง 2 เข็มด้วยขนาดกลางคือ 4 ไมโครกรัม ก็กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี
ที่สำคัญคือเรื่องความปลอดภัยและผลข้างเคียงพบว่ามีความปลอดภัยสูงผลข้างเคียงค่อนข้างน้อย
ที่พบบ่อยก็คือเจ็บตำแหน่งที่ฉีดและมีไข้บ้างซึ่งก็หายได้ในเวลาไม่กี่วัน

จากงานวิจัยดังกล่าวซึ่งเป็นเฟส 1 และ 2 ทำให้เป็นความหวังในระยะเวลาอันใกล้นี้ถ้าผลการวิจัยเฟส 3 ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่สรุปออกมาว่ามีความปลอดภัยและมีภูมิคุ้มกันขึ้นสูงแล้ว เด็กวัยอนุบาลและประถมศึกษาก็จะมีวัคซีนฉีดกัน  ซึ่งเป็นความโชคดีสำหรับประเทศไทยที่เราได้สั่งวัคซีน Sinopharm ผ่านทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เข้ามาแล้วหลายล้านโดส เมื่อมีการศึกษาเรียบร้อยซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นานนักก็จะสามารถฉีดให้กับเด็กไทยได้ต่อไป