ในการวางแผนการรักษา สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่ามะเร็งถุงน้ำดีสามารถกำจัดออกได้โดยการผ่าตัดหรือไม่

ขั้นตอนในการตรวจหา วินิจฉัย และหาระยะของมะเร็งถุงน้ำดีมักทำพร้อมกันโดยมีขั้นตอนต่อไปนี้:

  1. การทดสอบการทำงานของตับ: ขั้นตอนที่มีการตรวจตัวอย่างเลือดเพื่อวัดปริมาณสารบางชนิดที่ตับปล่อยออกสู่กระแสเลือด ปริมาณสารที่สูงกว่าปกติอาจเป็นสัญญาณของโรคตับที่อาจเกิดจากมะเร็งถุงน้ำดี
  2. การศึกษาเคมีในเลือด: ขั้นตอนที่มีการตรวจตัวอย่างเลือดเพื่อวัดปริมาณสารบางชนิดที่ปล่อยเข้าสู่กระแสเลือดโดยอวัยวะและเนื้อเยื่อในร่างกาย ปริมาณของสารที่ผิดปกติ (สูงหรือต่ำกว่าปกติ) อาจเป็นสัญญาณของโรคได้
  3. CT scan (CAT scan): ขั้นตอนที่สร้างชุดภาพโดยละเอียดของส่วนต่างๆ ภายในร่างกาย เช่น หน้าอก หน้าท้อง และกระดูกเชิงกราน จากมุมที่ต่างกัน ภาพนี้สร้างโดยคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงกับเครื่องเอ็กซ์เรย์ สีย้อมอาจถูกฉีดเข้าไปในหลอดเลือดดำหรือกลืนเพื่อช่วยให้อวัยวะหรือเนื้อเยื่อปรากฏได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ขั้นตอนนี้เรียกอีกอย่างว่าเอกซเรย์คอมพิวเตอร์, เอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือเอกซเรย์ตามแนวแกนด้วยคอมพิวเตอร์
  4. การตรวจอัลตราซาวนด์: ขั้นตอนที่คลื่นเสียงพลังงานสูง (อัลตราซาวนด์) สะท้อนออกจากเนื้อเยื่อหรืออวัยวะภายในและทำให้เกิดเสียงก้อง เสียงสะท้อนก่อตัวเป็นภาพของเนื้อเยื่อในร่างกายที่เรียกว่าโซโนแกรม ทำอัลตราซาวนด์ช่องท้องเพื่อวินิจฉัยมะเร็งถุงน้ำดี
  5. PTC (percutaneous transhepatic cholangiography): ขั้นตอนที่ใช้ในการเอ็กซเรย์ตับและท่อน้ำดี เข็มบางๆ จะถูกสอดผ่านผิวหนังใต้ซี่โครงและเข้าไปในตับ สีย้อมจะถูกฉีดเข้าไปในตับหรือท่อน้ำดีและทำการเอ็กซเรย์ หากพบว่ามีการอุดตัน บางครั้งจะมีการใส่ท่อบางและยืดหยุ่นที่เรียกว่า stent ไว้ในตับเพื่อระบายน้ำดีเข้าสู่ลำไส้เล็กหรือถุงเก็บนอกร่างกาย
  6. ERCP (endoscopic retrograde cholangiopancreatography): ขั้นตอนที่ใช้ในการเอ็กซเรย์ท่อ (ท่อ) ที่นำน้ำดีจากตับไปยังถุงน้ำดีและจากถุงน้ำดีไปยังลำไส้เล็ก บางครั้งมะเร็งถุงน้ำดีอาจทำให้ท่อเหล่านี้แคบลงและปิดกั้นหรือชะลอการไหลเวียนของน้ำดี ทำให้เกิดอาการตัวเหลือง กล้องเอนโดสโคป (ท่อบางที่มีแสงสว่าง) จะถูกส่งผ่านปาก หลอดอาหารและกระเพาะอาหารไปยังส่วนแรกของลำไส้เล็ก จากนั้นสอดสายสวน (ท่อขนาดเล็ก) เข้าไปในท่อน้ำดีผ่านกล้องเอนโดสโคป สีย้อมจะถูกฉีดผ่านสายสวนเข้าไปในท่อและทำการเอ็กซเรย์ หากท่อถูกปิดกั้นโดยเนื้องอก อาจมีการสอดท่อขนาดเล็กเข้าไปในท่อเพื่อปลดการอุดตัน อาจวางท่อ (หรือขดลวด) นี้ไว้เพื่อให้ท่อเปิดอยู่ อาจเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อด้วย
  7. MRI (การถ่ายภาพด้วยคลื่นสนามแม่เหล็ก) ด้วยแกโดลิเนียม: ขั้นตอนที่ใช้แม่เหล็ก คลื่นวิทยุ และคอมพิวเตอร์เพื่อสร้างชุดภาพที่มีรายละเอียดของบริเวณต่างๆ ภายในร่างกาย สารที่เรียกว่าแกโดลิเนียมจะถูกฉีดเข้าไปในหลอดเลือดดำ แกโดลิเนียมสะสมอยู่รอบๆ เซลล์มะเร็ง ดังนั้นพวกมันจึงปรากฏสว่างขึ้นในภาพ ขั้นตอนนี้เรียกอีกอย่างว่าการถ่ายภาพด้วยคลื่นสนามแม่เหล็กนิวเคลียร์ (NMRI)
  8. อัลตราซาวนด์ส่องกล้อง (EUS): ขั้นตอนที่ใส่กล้องเอนโดสโคปเข้าไปในร่างกาย โดยปกติจะผ่านทางปากหรือทวารหนัก กล้องเอนโดสโคปเป็นเครื่องมือคล้ายท่อบางๆ ที่มีแสงและเลนส์สำหรับการดู โพรบที่ส่วนท้ายของกล้องเอนโดสโคปใช้เพื่อสะท้อนคลื่นเสียงพลังงานสูง (อัลตราซาวนด์) ออกจากเนื้อเยื่อหรืออวัยวะภายในและทำให้เกิดเสียงก้อง เสียงสะท้อนก่อตัวเป็นภาพของเนื้อเยื่อในร่างกายที่เรียกว่าโซโนแกรม ขั้นตอนนี้เรียกอีกอย่างว่าการส่องกล้องด้วยคลื่นเสียง
  9. Laparoscopy: ขั้นตอนการผ่าตัดเพื่อดูอวัยวะภายในช่องท้องเพื่อตรวจหาอาการของโรค กรีดขนาดเล็ก (บาดแผล) เกิดขึ้นที่ผนังช่องท้องและสอดกล้องส่องกล้อง (ท่อบางที่มีแสงสว่าง) เข้าไปในแผลด้านใดด้านหนึ่ง เครื่องมืออื่นๆ อาจสอดผ่านแผลเดียวกันหรืออื่นๆ เพื่อทำขั้นตอนต่างๆ เช่น การนำอวัยวะออก หรือนำตัวอย่างเนื้อเยื่อไปตรวจชิ้นเนื้อ การส่องกล้องช่วยตรวจดูว่ามะเร็งอยู่ภายในถุงน้ำดีเท่านั้นหรือแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อใกล้เคียงหรือไม่ และสามารถผ่าตัดเอาออกได้หรือไม่
  10. การตรวจชิ้นเนื้อ: การกำจัดเซลล์หรือเนื้อเยื่อเพื่อให้สามารถมองเห็นได้ภายใต้กล้องจุลทรรศน์โดยนักพยาธิวิทยาเพื่อตรวจหาสัญญาณของมะเร็ง การตัดชิ้นเนื้ออาจทำได้หลังการผ่าตัดเพื่อเอาเนื้องอกออก หากไม่สามารถกำจัดเนื้องอกออกได้อย่างชัดเจนโดยการผ่าตัด การตัดชิ้นเนื้ออาจทำได้โดยใช้เข็มขนาดเล็กเพื่อเอาเซลล์ออกจากเนื้องอก